เหนื่อยตลอดเวลา ทั้งที่ก็พักผ่อนเต็มที่ และแทบไม่ได้ทำอะไรเลย อาการนี้อาจเข้าข่ายโรค TATT พักเท่าไรก็ไม่หายเหนื่อย
อาการเหนื่อยเป็นเรื่องปกติในชีวิตที่เราเจอกันมาโดยตลอด แต่รู้ไหมคะว่าในโลกนี้มีความเหนื่อยที่ไม่ปกติอยู่ด้วย โดยเป็นอาการเหนื่อยแบบไม่รู้จบ เหนื่อยแบบพักเท่าไรก็ไม่หาย และแม้จะนอนให้มาก ๆ ก็ไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งอาการนี้ไม่ใช่แค่ความขี้เกียจด้วยนะคะ แต่อาจเข้าข่ายโรค TATT ที่วันนี้เราจะพามารู้จักกัน

TATT คือโรคอะไร
TATT หรือ Tired all the time คือโรคที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียสะสม และบางคนอาจรู้สึกเหนื่อยแม้จะอยู่เฉย ๆ เหนื่อยแบบที่ไม่คิดอยากจะทำอะไรเลยสักอย่าง ซึ่งไม่ใช่แค่ความขี้เกียจ หรือไม่ทำเพราะไม่รู้สึกอยากทำ แต่เพราะมีอาการเหนื่อยจริง ๆ ไม่ว่าจะทางกายภาพหรือจิตใจ จนทำอะไรไม่ค่อยไหว และโรคนี้ก็เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยด้วยนะคะ
TATT เกิดจากอะไร
สาเหตุของโรค TATT อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้
1. นอนดึกเป็นประจำ หรือนอนไม่หลับบ่อย ๆ
การที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอติดกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียสะสมได้ และพอนอนไม่พอบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้อีกมากด้วย
2. กินอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์
โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบอย่างทุกวันนี้ ทำให้บางคนเลือกกินอาหารง่าย ๆ อย่างฟาสต์ฟู้ด เมนูสำเร็จรูป หรือกินอาหารเมนูเดิม ๆ อยู่เป็นประจำ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
3. ติดกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวก็จริง แต่ถ้าได้รับปริมาณมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้
4. ความเครียด และปัญหาชีวิต
ความเครียดไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องความสัมพันธ์ เศรษฐกิจ การเงิน หรือเครียดเรื่องที่บ้าน หากชีวิตวนลูปอยู่กับความเครียดเหล่านี้เป็นประจำก็อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าทางอารมณ์ได้
5. ไม่ออกกำลังกาย
เชื่อไหมว่าการที่เราไม่ยอมออกกำลังกาย ก็อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยไม่รู้จบ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง และมีสุขภาพดี อีกทั้งยังทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข หรือเอ็นดอร์ฟิน ออกมา ช่วยให้รู้สึกสบายตัว มีพลัง พร้อมกับบรรเทาอาการเครียดและเหนื่อยล้าได้ด้วย
6. โหมงานหนักมากเกินไป
บางคนบ้างานเกินไปจนแทบไม่ได้พักผ่อน ซึ่งแม้จะรู้สึกเป็นสุขกับการที่งานสำเร็จไปด้วยดี แต่อาจแลกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลียไม่รู้จบ
อ
7. ทำอาชีพที่ต้องทำงานแบบเป็นกะ
เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ พนักงานร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงานที่ทำงานเป็นกะต่าง ๆ หรือคุณแม่ลูกอ่อน ที่มักจะพักผ่อนไม่เป็นเวลา และนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มสักเท่าไร
8. ความผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ
อาการเหนื่อยง่ายอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อนอยู่ในร่างกายได้ด้วย เช่น โรคอ้วน โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน หรือโรคโลหิตจาง เป็นต้น
เ
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย เราป่วยแน่ ๆ หรือแค่ขี้เกียจTATT อาการเป็นอย่างไร เช็กซิเราป่วยไหม

ถ้าคุณมีอาการตามนี้ อาจเข้าข่ายโรค TATT ก็ได้
1. เหนื่อยและเพลียตลอดเวลา
2. นอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่ม
3. เหนื่อยแม้จะไม่ได้ออกแรงทำอะไร เหนื่อยโดยไม่มีสาเหตุ
4. ขาดแรงจูงใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้นาน ๆ
5. ประสิทธิภาพในการตัดสินใจลดลง ทำอะไรเชื่องช้ามากขึ้น แม้แต่กระบวนการคิดก็ต้องใช้เวลานานกว่าที่เคยTATT รักษาได้ไหม
เราสามารถรักษาอาการเหนื่อยตลอดเวลาให้ดีขึ้นได้ ดังนี้
1. เข้านอนให้เร็วขึ้น พยายามนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง ให้ได้ทุกวัน
2. เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หรือกินอาหารให้ครบ 5 หมู่
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
4. พยายามรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป
5. ปรับชีวิตให้สมดุล ไม่ปาร์ตี้ทุกวัน หรือทำงานเลิกดึก ๆ เสมอ
6. พยายามไม่เครียด ปล่อยวางกับปัญหาในชีวิตบ้าง
7. หากมีอาการเหนื่อยมากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาTATT ไม่อยากเป็น ป้องกันยังไงดี เพียงใช้ชีวิตอย่างพอดี ไม่สุดโต่งมากเกินไป และดูแลสุขภาพร่างกายให้ครบทุกด้านอย่างที่กล่าวมา รวมทั้งตรวจสุขภาพทุกปี ก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรค TATT ได้ หรืออย่างน้อยหากพบอาการก็จะสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที
หากรู้สึกเหนื่อยล้ามากเกินไป ลองพักผ่อนและทำใจให้สบายดูก่อน หรือใครจะลองออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เติมเต็มความสดชื่นให้ชีวิตดูบ้างก็ได้นะคะ